วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

3 ใจความได้ผลของใช้แท้กีฬาแบดมินตัน น้องเมย์ รัชนก พร้อมด้วย จ้านลงเงินสะสม



3 หัวใจความสำเร็จของนักกีฬากับนักลงทุน






          ภาพแห่งชัยชนะของนักกีฬาแชมป์แบดมินตันโลกนั้น น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ในปี 2556 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการกีฬาแบดมินตันด้วยในวัยพาง 18 ปี ภาพแห่งความประทับใจนี้ได้ถูกจารึกไว้ในความทรงจำของคนไทยทั้งประเทศถึงความเก่งของน้องเมย์ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ความน่าสนใจมันไม่ใช่แชมป์โลกที่น้องเมย์ได้รับนั้น แต่เป็นปัจจัยแวดล้อมที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในตัวนักกีฬานั้นก็คือ ฝึกซ้อม แข่งขันพร้อมทั้งโค้ชที่ดี  ค่าทองคำวันนี้





1. หมั่นฝึกซ้อม – ศึกษาหาความรู้

                   เพราะว่าน้องเมย์บุกเบิกเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุ 6 ขวบด้วยกันครันจังกับการซ้อมมากขึ้นในช่วงอายุ 8-9 ขวบ โดยฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบด้วยฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งประสบความสำเร็จเป็นแชมป์แบดมินตันโลกด้วยในวัยปาง 18 ปี ดังนั้น ถ้าจะนับตั้งแต่จุดริเริ่มต้นจนถึงช่วงที่ได้รับแชมป์โลก เป็นการเดินทางที่เพราะต้องใช้เวลานานกว่า 12 ปี ถึงแม้ว่าได้เป็นแชมป์โลกแล้วนั้น แต่น้องเมย์ก็ยังไม่หยุดที่จะฝึกซ้อมพร้อมกับเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการตีของตัวเองให้ดีมากขึ้นก็เพราะว่าคิดว่าเก่งเท่านี้ยังไม่พอจะต้องทำให้ดีกว่านี้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
         และในโลกการลงทุนก็เช่นเดียวกันผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนอย่างยั่งยืนนั้นต้องใช้เวลาในการสั่งสมประสบการณ์จากการเข้ารับการอบรม โดยการอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาความรู้ให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา แม้ว่าจะประสบความสำเร็จจากการลงทุนแล้วก็ยังไม่หยุดที่จักศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนากลยุทธ์พร้อมด้วยปรับพอร์ตการลงทุนให้ทันต่อโลกการลงทุนที่เปลี่ยนไปมากขึ้นด้วย

2. ลงแข่งขัน – ลงทุนจริง

            เพราะว่าน้องเมย์ได้ตั้งต้นลงแข่งขันตั้งแต่อายุ 12 ปีในหลายรายการซึ่งอาจจักมีทั้งแพ้พร้อมกับชนะผสมกันไป เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์นั้นนักกีฬาจะเก่งได้ก็ต้องลงสนามบ่อยๆเพื่อจะได้รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง ก็เพราะว่าโค้ชกับเพื่อนที่เป็นคู่ซ้อมด้วยกันก็จักรู้ทันกันด้วยซึ่งแตกต่างกับคู่แข่งขันที่มาจากต่างถิ่นจักมีฝีมือแตกต่างกัน ยิ่งเจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจมากขึ้น ก็จะทำให้นักกีฬามีฝีมือในการเล่นที่พัฒนาเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
      ผู้ที่ศึกษาการลงทุนในตำราจนชำนาญนั้น เข้าฟังสัมมนาจนทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่กล้าขึ้นต้นลงทุนจริงๆๆเลยสักบาทเดียวด้วย เท่าก็เพราะว่ากลัวความเสี่ยง รอจังหวะการลงทุนให้ตลาดลงมาอื้อๆก่อนแล้วจึงเข้าไปซื้อนั้นแต่พอตลาดลงมามากหลายแล้วก็ยังไม่กล้าเพราะคิดว่าน่าจะลงไปได้อีก จนสุดท้ายหุ้นขึ้นพร้อมกับคำว่า รู้งี้ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความรู้เพราะว่ามีเก็บไว้เยอะแยะมาก แต่มันอยู่สภาพจิตใจที่พร้อมยอมรับความเสี่ยงด้วยการลงทุนแท้จริงๆด้วย ก็เพราะว่าตลาดหุ้นก็ไม่ใช้หลักการในตำรา 100% ถ้ามีความรู้พร้อมแล้วแต่ไม่กล้าลงทุนลงสนามแท้จริง ก็เหมือนกับการไม่รู้อะไรเลย


พร้อมด้วยสมมตกลัวมากขนาดนี้ก็อาจจะเริ่มด้วยเงินจำนวนน้อยๆ ทดลองลงทุนเพื่อให้เข้าใจอารมณ์ของตลาด อีกทั้งเป็นการพิสูจน์ความรู้ที่ศึกษามาด้วยว่าใช้งานได้ยิ่งหรือว่าไม่นั้นและจักได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเพื่อหาแนวทางการลงทุนให้เหมาะสมกับนิสัยตนเองได้ดีมากขึ้นด้วย เช่น บางคนศึกษาตำราการลงทุนมาอย่างดี แล้วคิดว่าตนเองเป็นนักลงทุนระยะยาว VI พร้อมด้วยไม่คิดถึงความโลภจากการลงทุนพร้อมทั้งรอรับเงินปันผล แต่พอเข้ามาลงทุนในตลาดนักๆที่หุ้นตัวเล็กวิ่งให้เกลื่อนก็แปลงร่างกลายเป็นเม่าน้อยซะอย่างงั้น เพราะคำว่า “อย่าโลภ” ที่เขียนในตำรากับการลงทุนยิ่งนั้นแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

3. โค้ชที่ดี – ที่ปรึกษาการลงทุนที่ดี

                โดยนักกีฬาที่เก่งจักมีโค้ชช่วยแนะนำวิธีการเล่นให้ดีมากขึ้น เพิ่มจุดแข็งพร้อมด้วยลดจุดด้อยเพื่อให้เป็นนักกีฬามืออาชีพที่เก่งสมบูรณ์แล้ว รวมทั้งมีวิธีสร้างขวัญกำลังใจในยามที่นักกีฬาท้อแท้ มีวิธีจูงใจให้นักกีฬาตั้งใจฝึกซ้อมนั้น เพราะว่าการเป็นโค้ชที่ดีต้องเก่งในการมองเกมส์ให้ขาด รู้จักช่องโหว่ของนักกีฬากับวิธีพัฒนาทักษะต่างๆด้วย สิ่งสำคัญที่สุดต้องเก่งทางด้านจิตวิทยาโดยการโน้มน้าวใจให้นักกีฬาเชื่อฟังยอมทำตามสิ่งที่โค้ชแนะนำนั้น

           เพราะว่านักลงทุนที่เก่งก็จะมีต้องมีที่ปรึกษาการลงทุนที่มีจรรยาบรรณคอยให้คำแนะนำ เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดให้นักลงทุนแล้วเพราะว่า ช่วยวางแผนการลงทุน แนะนำเรื่องการลงทุนที่สร้างความมั่งคั่งให้นักลงทุน และคอยตักเตือนนักลงทุนในช่วงเวลาที่ตกใจเกินเหตุ(ขายหุ้นทิ้งเพราะว่าลืมนโยบายการลงทุนที่วางไว้) หรือไม่ก็กล้าบ้าบิ่นที่ซื้อหุ้นวิ่งเพราะว่าไม่รู้จักพื้นฐานด้วยโดยให้คำแนะนำที่เหมาะสมตามหลักจรรยาบรรณผู้ดูแลนักลงทุนที่ดีด้วยกันเพื่อให้เป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพ


                  ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนหุ้นนั้นได้อย่างยั่งยืนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ จำนวนเงิน นั้นว่าใครมีมากกว่าคนนั้นจะบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้เร็วกว่า แต่มันอยู่ที่การศึกษาหาความรู้ด้วย การลงทุนจริง พร้อมทั้งมีที่ปรึกษาการลงทุนที่ดี เพื่อที่จะสร้างพร้อมทั้งรักษาความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น 



มูลค่าทองย้อนหลังรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี้      http://moneygold11.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น